วันจันทร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2560

รีวิวเมคอัพและสกินแคร์จากDaiso EP1: ดินสอเขียนคิ้วถูกและดีจริงดิ

รีวิวเมคอัพและสกินแคร์จากDaiso EP1: ดินสอเขียนคิ้วถูกและดีจริงดิ

HOT NEWS

สวัสดีค่ะ ทุกคน^-^)/

โพสต์นี้เป็นโพสต์แรกของเรา หากมีข้อผิดพลาดประการ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ด้วยนะคะ^^’

เห็นใคร…หลายต่อหลายคน พูดถึงเมคอัพไอเท็มและสกินแคร์ของDaiso

ว่าถูกและดี กันเยอะมากกก กไก่ล้านตัว 5555

ราคาก็ดีมากมาย 60 บ.เอ๊งแกร๊(อันนี้พูดกับตัวเอง 5555)

รออะไรคะ?!…ไปกันเล๊ย Daiso จ๋า อิ อิ

อือม์–ของเค้าเยอะจริงๆ น่าซื้อน่าใช้ทั้งนั้นเลยเนอะ ม่ะ…ตั้งสติแพร๊บ!

วันนี้ตัดสินใจว่า จะช้อปเมคอัพไอเท็มแค่เพียงชิ้นเดียว…ใช่ค่ะ! ชิ้นเดียว ท่องไว้ๆ 5555

เอาล่ะ–เลือกไอเท็มที่ใช้กำลังจะหมดก่อนละกัน นั่นคือ…ดินสอเขียนคิ้ว…อิ้ว อิ้ว อิ้ว

เพื่อนสนิทก็บอกมา ว่าใช้ดินสอเขียนคิ้วจากDaisoแล้ว ถูกใจ ใช้ดี ใช้ง่ายและติดทน

อืมๆ ว่าแต่…มันตัวไหนล่ะ?! มีหลายรุ่นเลยเนี้ย เอาน่าๆ เลือกเอารุ่นที่กันเหงื่อกันน้ำ ไม่ต้องเหลา

และมีโทนสีที่คิดว่าจะเข้ากันได้ดี กับผมสีดำและคิ้วเข้มๆของเราละกัน^^’

เอาล่ะ–ในที่สุด ก็ตัดสินใจเลือกตัวนี้มาค่ะ แถ่น แถ๊น….

ดินสอเขียนคิ้วสีน้ำตาลเข้ม หัวกลม แท่งสีชมพู หมุนๆอันนี้ค่าาาา

ก่อนอื่น–ขอให้ข้อมูลพื้นฐานของเราก่อนนะคะ…

ผมดำ คิ้วสีเข้ม

ผิวผสม-มัน

ชอบแต่งหน้าโทนธรรมชาติใสๆ

ทีนี้…มาชมกันค่ะ ว่าเราลองใช้แล้วเป็นยังไง

ถูกและดีจริงมั้ย?! คลิ๊กชมกันได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้เลยค่า^-^/

รีวิวดินสอเขียนคิ้วจากDaiso

รีวิวเมคอัพและสกินแคร์จาก7-11 EP1: Nami Makeup Pro Matte HDcushion Spf35PA++

รีวิวเมคอัพและสกินแคร์จาก7-11 EP1: Nami Makeup Pro Matte HDcushion Spf35PA++…169บาท

HOT NEWS

สวัสดีค่า^-^)วันนี้ขอพูดถึง Hot item งานผิวจาก 7-11 ที่ตอนนี้ใครๆก็พูดถึง นั่นก็คือ…

“Nami Makeup Pro Matte HDcushion Spf35” ตัวนี้ค่า…

ก่อนอื่นต้องบอกไว้ตรงนี้ก่อนเลยค่ะ ว่าเราเป็นแฟนของงานผิวNAMIซองๆจาก7-11

ลองใช้มาแล้วก็หลายรุ่น ซึ่งจะขอเก็บไว้พูดต่อไปในโพสต์หน้าละกันเนอะ ^^

ม่ะ–เรากลับมาพูดถึง Pro Matte HDcushion ตัวนี้กันต่อดีกว่าค่ะ

แรกเริ่มเดิมที…เคยลองสมัยที่เป็นซองๆสีดำ จำได้ว่าไม่ปลื้ม

เพราะสีมันเข้มกว่าผิว ใช้แล้วรู้สึกว่ามันดร็อปและหมองระหว่างวัน

แต่เห็นว่ามารอบนี้ มีการปรับปรุงสูตรใหม่ให้ไฉไลกว่าเดิม

เลยขอให้โอกาสเธอผู้นี้กันอีกซักครั้ง 🙂

ม่ะ–ปาดที่ท้องแขนดูเนื้อ ดูสี กันก่อนซักนิด


อืม…เนื้อที่ได้ บางเบาจริงค่ะ แถมแมตต์เร็วมาก แตะแป๊บเดียวแห้งเนียนไปกับผิวทันที

แถมสีที่ได้ ก็ใกล้เคียงกับผิวNC30โทนเหลือง อย่างเรามากๆ

ทีนี้มาลอง…บนหน้ากันมั่งซิ จะเป็นไงน๊อ?!


ลุคที่ได้ คือ ผิวหน้าที่ผ่องสว่าง มีความบางเบา และแมตต์กำลังดี ไม่ถึงขั้นทำให้หน้าแบนแต่อย่างใด

ในรูปที่เห็นไร้ซึ่งการเฉดดิ้ง หรือไฮไลต์ใดๆทั้งสิ้นนะคะ (มีแต่รอยแว่นตาที่ข้างๆสันจมูกค่ะ^^’)

ปกปิดได้ปานกลาง ช่วยปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอขึ้น แต่ยังไม่สามารถปิดฝ้ากระได้มิดนะคะ

สามารถใช้เดี่ยวๆไม่ต้องลงตามด้วยแป้งฝุ่นหรือแป้งพัฟค่ะ เพราะไม่มีความเหนอะหนะบนผิวเลย

คราวนี้มาดูความติดทนและคุมมันกันบ้างค่ะ…

สภาพผิวของเรา : ผิวผสม-มัน /NC30/มีรอยฝ้ากระบางๆ

เริ่มลงงานผิวตอน 11.00น.โดยไม่มีการลงสกินแคร์ หรือกันแดดใดๆทั้งสิ้น

ออกไปทานอาหารกลางวันกลับถึงบ้าน เช็คงานผิวครั้งที่1 ตอน14.00น.

พบว่า งานผิวที่หน้ายังคงกระจ่างใส ไม่ดร็อป ไม่หมอง

แต่เริ่มสังเกตุได้ถึงความมันวาวบ้างเล็กน้อย-ปานกลาง

และถ้าเอาหน้าแนบกระจก เพ่งมองที่ผิว (คิดว่าคนทั่วๆไป ที่เจอกันในชีวิตประจำวัน

คงจะไม่ได้ใกล้กันขนาดนั้นเนอะ)จะเห็นว่ามีคราบให้เห็นเล็กๆน้อยๆเกิดขึ้นบ้างเหมือนกัน

เวลาผ่านไป…เช็คผิวอีกทีที่เวลา 17.00น.ค่ะ

หลังจากเดินไปส่องกระจก สิ่งแรกที่เห็นคือ ความมันวาว และสิ่งที่เห็นตามมา คือคราบที่เพิ่มมากขึ้น

ทีนี้ลองไปสะกิดถามคนข้างๆ(กาย)ดูบ้างค่ะ ว่าตอนนี้เห็นผิวหน้าเราเป็นไงบ้าง?! คำตอบคือ…

#ผิวมันชนิดเอาไปทอดไข่ได้เลยล่ะเธอ!

อืมม์–คนนี้เชื่อได้นะ เพราะเป็นคนเดียวที่กล้าพูดความจริง ได้แบบไม่ต้องเกรงอกเกรงใจกัน

แล้วคราบล่ะพี่ เห็นมั๊ย?! คำตอบคือ…ไม่เห็นนะ:)

สรุปการคุมมันและติดทนกันค่ะ :

สามารถคุมมันได้ประมาณ 2-3 ชม.

แต่หลังจากนั้นก็กลับเข้าสู่สภาวะ(มัน)ตามธรรมชาติของผิวของแต่ละคน

ส่วนความติดทน กันน้ำกันเหงื่อ ถือว่าทำได้ดีค่ะ

มีคราบให้เห็นบ้าง แต่เอฟเฟ็คของคูชั่นสามารถ

อำพรางคราบที่เกิดขึ้นได้ค่อนข้างดีเลยค่ะ คือคนอื่นมองไม่เห็น

เอาล่ะ ให้คะแนนกันดีกว่าค่า…สำหรับสภาพผิวของเรา : ผิวผสม-มัน /NC30/มีรอยฝ้ากระบางๆ

โทนสีทำได้ดี สำหรับผิวโทนเหลือง ให้ไปเลย 5/5 คะแนน

คุมมัน ทำได้ดีใน 2-3 ชม.แรก ให้ไปเลย 3/5 คะแนน

เบาสบายผิว ไม่ต้องลงแป้งเพิ่ม ให้ไปเลย 5/5 คะแนน

ไม่ดร็อป ไม่หมองระหว่างวัน ให้ไปเลย 5/5 คะแนน

ติดทนและเป็นคราบ มีความเป็นคราบแต่เอฟเฟ็กของคูชั่นช่วยอำพรางได้ดี

ให้ไปเลย 3/5 คะแนน

ปล.ท้ายที่สุดนี้ ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา เป็นเพียงผลที่ได้จากการทดสอบกับผิวเราเองเท่านั้นนะจ๊ะ

สำหรับใครที่ลองใช้แล้ว ดีไม่ดียังไง ก็แวะมาเม้ามอย เล่าสู่กันฟังกันได้นะค๊า^^

ส่วนวันนี้ลากันไปก่อนละน๊า…บ๊าย บายจร้า

รีวิวงานปากสายเกา(หลี) EP1 : Etude House Color Lips-fit สีOR202 Wanna Fit Orange ราคา2xx

รีวิวงานปากสายเกา(หลี) EP1 : Etude House Color Lips-fit สีOR202 Wanna Fit Orange ราคา2xx

HOT NEWS

สวัสดีค่า…วันนี้ขอหยิบลิปสติกจิ้มจุ่มสัญชาติเกาหลี แบรนด์แรกๆที่ทำให้สาวไทยหลงใหล

มารีวิวกันค่ะ นั่นก็คือ….

Etude House Color Lips-fit สีOR202 Wanna Fit Orange


ลิปสติกรุ่นนี้ มีจุดเด่นเรื่อง เนื้อแมตต์ และความติดทน แถมสีสันก็สดใส สไตล์สาวเกาหลีค่ะ

เนื้อของลิปสติก: เป็นลิปสติกสีส้มคอรัลสด เม็ดสีสดชัดมาก แต่มีความเป็นแป้งให้เห็นอยู่เหมือนกันค่ะ

ต้องรีบเกลี่ยให้ดีๆ ไม่งั้นจะเป็นคราบค่ะ ค่อยๆใช้ค่ะ แล้วค่อยๆทำความเข้าใจกับมัน

ลองสวอชสีที่หลังมือค่ะ


ดูตอนลงสีที่ปากกันค่ะ…

เริ่มทาตอน10โมงเช้า สีสันสดใส รับเช้าวันใหม่กันค่ะ เห็นปากมาแต่ไกลกันเลยทีเดียว


ผ่านมื้อเช้าไปหนึ่งมื้อ…


โอ้ว…สีสันยังคงสวยงาม หายไปบ้างนิดๆหน่อย เหลือ 90%กันเลยทีเดียว (ถือว่าทำได้ดีค่ะ)

หลังจากผ่านไปประมาณ 2ชม.

ทดสอบความติดทนกันอีกซักนิด โดยการกินไอศครีม 1โคนนี้…หึ หึ


เช็คสภาพหลังกินไอศครีมหมดไป1โคน…


สังเกตุเห็นคราบขึ้นมาเลยค่ะ ตกร่องบ้างไรบ้าง แต่เม็ดสียังเยอะอยู่นะคะ

ดูแล้วไม่ค่อยงามๆ ทีนี้เราจะมาแก้ปัญหานี้กันค่ะ^^…

นั่นคือ—ใช้ลิปบาล์มหรือลิปมันยี่ห้ออะไรก็ได้ค่ะ

ทาลงไปที่ปากเลย มันจะช่วยให้เนื้อลิปที่แห้งเป็นคราบนั้น

กลับมาชุ่มชื่นและเกลี่ยสีให้เนียนได้อีกครั้ง แล้วเม้มปากบนกระดาษทิชชู่ ให้สีส่วนเกินหลุดออกไป

รับรองว่าจะได้สีปากที่สดใสดังเดิม แต่ไม่ใช่เนื้อแมตต์แล้วนะคะ เพราะเราลงลิปบาล์มลงไปแล้ว

ก็จะได้ประมาณนี้ค่ะ…


เจอมื้อเที่ยงไปอีกหนึ่งมื้อ…เบา เบา กับขนมปังไส้กรอก อันนี้ลืมถ่ายรูปเก็บไว้ค่ะ ต้องขออภัย

เช็คปากแล้วก็จะเป็นคราบหน่อยๆ ก็ใช้วิธีทาลิปบาล์มทับแล้ว ใช้นิ้วเกลี่ยๆ เหมือนเดิมค่ะ

แน่ะ…ยังสวยต่อได้อีก 55555

ทีนี้–มาเช็ครอบสุดท้าย หลังมื้อเย็นกันค่ะ 19.00 น.


ตามรูปเลยค่ะ ตั้งแต่ 10.00-19.00น. ลิปเหลืออยู่ประมาณ 50% น่าจะได้

ที่เหลือคงโดนกินลงพุงไปแล้ว เป็นที่เรียบร้อยค่ะ แหะ แหะ บรึ๋ย!!

จากนั้นทดสอบการล้างออกด้วย Cleansing Water ค่ะ ตัวเดียวที่ใช้ล้างทั้งหน้า

สามารถล้างออกได้ค่ะ แต่อาจต้องเช็ดซ้ำหลายๆรอบหน่อย แนะนำให้ใช้เป็น

eye and lip remover น่าจะเช็ดออกได้ดีกว่าค่ะ

มาให้คะแนนกันดีกว่าค่ะ…

เม็ดสีชัด 5/5 คะแนน ใช้เพียงนิดเดียว ก็สามารถกลบสีปากได้มิดค่ะ

ติดทน ไม่เป็นคราบ 3.5/5 คะแนน ติดทนได้นานถึง 6-8 ชม.(เหลือที่ปาก70-80%)
แต่โดนหักคะแนนตรงความเป็นคราบค่ะ

เนื้อสัมผัสหลังจากลิปเซตตัว 4/5 คะแนน มีความแห้งแมตต์ บางเบา สบายปากไม่แห้งตึง

แต่สังเกตุได้ถึงความเป็นเนื้อแป้งอยู่เหมือนกันค่ะ ระหว่างวันแนะนำให้เติมลิปบาล์มค่ะ

โดยเฉพาะคนที่มีปากแห้งลอก เพราะลิปตัวนี้ระหว่างวันทำให้ปากแห้งและเป็นคราบ

หลังจากใช้ไป 6-8ชม.ค่ะ

ล้างออกง่ายด้วย Cleansing water 3.5/5 คะแนน ล้างออกได้ค่ะ แต่ต้องเช็ดซ้ำหลายๆรอบ

หน่อย แนะนำให้ใช้ Lip remover น่าจะดีกว่าค่ะ

สรุปความคุ้มค่า: ด้วยคุณภาพสินค้าที่ได้ เทียบกับราคา ถือว่าสอบผ่านค่ะ
แนะนำสำหรับใครที่ชอบสีสันสดใสซ่าบซ่า สไตล์สาวเกาหลี
แต่ไม่แนะนำสำหรับคนที่มีปัญหาปากแห้งลอก เพราะหลังจากทาลิปตัวนี้
มันจะทำให้ริมฝีปากแห้งขึ้นอีกคะ

เอาล่ะค่ะ…ทั้งหมดทั้งมวล จากประสบการณ์ที่ได้ใช้มา ก็ประมาณนี้ค่ะ

ขาดตกบกพร่องประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้นะคะ

ขอบคุณทุกคน ที่แวะเข้ามาอ่านและให้ความสนใจในเรื่องที่นำมาแบ่งปันค่ะ…

แล้วพบกันใหม่นะคะ…บ๊าย บาย (^-^)

รีวิวงานปากถูกและดี(มั้ย?!) EP1 : Malissa Kiss Velvet Matte Lip Color

รีวิวงานปากถูกและดี(มั้ย?!) EP1 : Malissa Kiss Velvet Matte Lip Color

HOT NEWS

สวัสดีค่า^-^)/ พบกันอีกแล้ว กับงานปากที่เพิ่งได้ลองใช้…


นั่นคือ Malissa Kiss Velvet Matte ลิปสติกสัญชาติเกาหลีอีกตัวนึงนั่นเอง:)
ช่วงนี้ราคาดีมากมาย จาก 199บ. เหลือ 99บ.ถูกเว่อร์!!
(ช่วงนี้ที่ konvy.com กับ beauticool.comนะจ๊ะ)

จริงแล้วเคยได้เห็นแว๊บๆจากรีวิวของเหล่าบล๊อกเกอร์มาซักพักนึงนะ ก็ยังรู้สึกเฉยๆ
แต่บังเอิญ พาลูกๆไปช้อปปิ้งที่โลตัสใกล้บ้าน เห็นช็อปเล็กๆตั้งขายลิปสติกของแบรนด์นี้ตั้งอยู่
แปะราคา 169บ. ก็ลองโฉบๆไปดู หันไปเจอพนักงานขาย ทาปากสีสวยมากกกกก
มันดูแมตต์แบบเนียนๆแน่นๆแต่ดูไม่แก่นะ เป็นสีน้ำตาลเก๋ๆ ปิ๊งเลยๆ
กลับถึงบ้านรีบย้อนกลับมาดูรีวิวในยูทูปอีกที

ไหนดูหน่อยซิว่าสีไหนเป็นยังไงบ้างน๊า
–ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องดูของหลายๆคนนะ
เพราะบล็อกเกอร์แต่ละคน ก็จะเป็นตัวแทนความหลากหลายของทั้งสีผิว และสีปาก
เลือกเอาที่ใกล้เคียงกับตัวเราเองมากที่สุด
อะเคร–ได้สีละ…ต่อไปลองหาดูซิ แต่ละเว็บขายกันเท่าไหร่

สุดท้ายเลยได้มา 2สีค่ะ
ที่ konvy.com แต่นแต๊นนนนน

#04 Whisky Myth กับ #12 Gimme Penny นั่นเอง

มาพูดถึงสี #04 Whisky Myth กันก่อนเลยค่ะ
สีนี้เป็นสีออกโทนน้ำตาลช็อกโกแลตแต่มีสีแดงตุ่นและส้มเจืออยู่หน่อยๆ
ถ้าดูสีจากแท่ง เหมือนว่าจะออกแก่ๆรึป่าวนะ


ลองดูสวอชที่แขนกันค่ะ…

เม็ดสีชัดเว่อร์ค่ะ กลบสีปากมิด เนื้อเนียนแน่น ลื่นทาง่าย
ทาตอนแรกจะรู้สึกถึงความครีมมี่ ซักพักลิปจะค่อยๆเซตตัวกลายเป็นเนื้อแมตบางเบา
จากการลองใช้ลิปสติกทาจากแท่งโดยตรง กับใช้พู่กันทาปาก
ใช้พู่กันทาจะได้ความบางเบาและเรียบเนียนกว่าค่ะ ไม่ตกร่อง
เสร็จแล้วใช้กระดาษทิชชู่ซับๆเนื้อลิปส่วนเกินบนริมฝีปากออกเบาๆ
จะช่วยให้ได้ริมฝีปากที่มีสีสวย เรียบเนียน และติดทนนานยิ่งขึ้นค่ะ
ทาบนปากจะได้ลุคประมาณนี้ค่ะ….


ส่วนตัวแล้ว ชอบลิปสติกสีนี้ตรงที่ ลุคที่ได้มันน่ารักเก๋ๆ
เจือความเท่ด้วยหน่อยๆ พอดีๆ ไม่เยอะไป ไม่น้อยไป
ที่สำคัญ คือไม่แก่อย่างที่คิดแฮะ ^^’

ทีนี้มาดูอีกสีนึงค่ะ #12 Gimme Penny นั่นเอง
สีนี้จะเป็นสีโทนน้ำตาลเจือส้มและชมพู สีจะออกหวานๆกว่า #04 Whisky Myth ค่ะ

ลองดูสวอชที่แขนกันค่ะ…


เทียบสองสีให้ดูค่ะ


สีทาบนปากจะได้ลุคประมาณนี้ค่ะ….ออกจะใสๆธรรมชาติๆ

เม็ดสีของ#12 Gimme Penny อาจจะไม่ชัดเท่า #04 Whisky Myth
อาจจะเป็นเพราะสีที่อ่อนกว่า เนื้อที่ได้เลยค่อนข้างจะบางเบากว่า
ต้องทา2-3ครั้งถึงจะกลบสีปากมิดค่ะ

เอาล่ะค่ะ เนื้อสัมผัสและสี สอบผ่านละ เหลือความติดทนละเนอะ…
มาทดสอบความติดทนกันค่ะ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ขอทดสอบกับ #04 Whisky Myth ละกันเนอะ มาค่ะ

ด่านแรก–มื้อเช้า กาแฟหนึ่งแก้ว…ฝากรอยกันไว้ที่แก้วซะแล้วซิ ^^’


ต่อด้วยหมูปิ้งข้าวเหนียว ม่ะ–เช็คปากซิ เหลือเท่าไหร่ละ

เหลือประมาณ 70%น่าจะได้เนอะ ถือว่าหลุดไปเร็วพอสมควรเลยนะคะนี่^^’

ด่านสอง–มื้อกลางวัน จัดไปราดหน้าปลากระพงเส้นกรอบ ม่ะ–เช็คซิ เหลือเท่าไหร่แล้ว

เหลือไม่ถึง 50%ละค่ะ บนริมฝีปากด้านในหายเรียบ เข้าท้องพี่หมดแระ จ๊าก!

สรุปเรื่องความติดทนของลิปสติกสี#04 นะคะ
ถือว่าติดไม่ค่อยทนเท่าไหร่ค่ะ ต้องคอยเติมระหว่างวัน
มีความเป็นคราบนิดๆแต่อยู่ในขั้นรับได้ค่ะ ใช้แล้วปากไม่แห้งตึง
สามารถใช้ลิปบาล์มหรือลิปมันลงทับเพื่อเกลี่ยสีลิปที่เหลืออยู่บนปากให้สม่ำเสมอ
ระหว่างวันได้ ( สำหรับคนที่ไม่ชอบเติมลิปสติกระหว่างวันนะคะ)

การล้างทำความสะอาด : ทดสอบกับ Cleansing Water ตัวเก่ง ที่เราใช้ล้างทั่วหน้าค่ะ

สามารถล้างออกได้ง่าย ด้วยCleansing Waterธรรมดา โดยไม่จำเป็นต้องใช้Eye&Lip remover ค่ะ

*สรุปว่า โดนใจที่สุดก็เนื้อเนียนนุ่มและแมตต์แบบเก๋ๆไม่แก่นี่แหละค่ะ
ส่วนความติดทนนี่น้อยไปหน่อย ต้องคอยเติมระหว่างวันค่ะ
ถามว่าชอบมั้ย?!
ก็ตอนนี้ถือว่าเป็นลิปสติกตัวโปรดที่ทาแทบทุกวันกันเลยทีเดียวค่ะ
ราคานี้ถือว่าคุ้มเกินราคาค่ะ*

คุณสมบัติ All in one เลยค่ะ แนะนำสำหรับคนที่ไม่มีเวลาค่ะ สะดวกมากๆ

คุณสมบัติ All in one เลยค่ะ แนะนำสำหรับคนที่ไม่มีเวลาค่ะ สะดวกมากๆ

HOT NEWS

เป็นทั้งครีมบำรุง กันแดด เมคอัพเบส รองพื้น คุมมัน และปรับสีผิว
ม่ะ!รีวิวกันเลยดีกว่าค่ะ:)
อ้างอิงถึงสภาพผิวเราก่อนนะคะ เรามีผิวผสมค่อนไปทางมัน รูขุมขนค่อนข้างกว้าง
มีริ้วรอยอารยะธรรม และฝ้ากระเล็กน้อย ตามประสาสาววัยสามสิบปลายๆ 5555
ผลจากการใช้: เนื้อครีมค่อนข้างบางเบา แต่เวลาเกลี่ยด้วยนิ้วจะรู้สึกได้ถึงความเหนียว
สไตล์เมือกหอยทาก ทำให้รู้สึกไม่เรียบเนียนไปกับผิวอย่างที่ต้องการ
เลยลองใช้ฟองน้ำชุบน้ำพอหมาด มากดซับและเกลี่ยอีกที
โอ้ว! เรียบ เนียน กริบ ไปกับผิวกันเลยทีเดียว อ่อ อย่างนี้นี่เอง
* ดังนั้นข้อควรระวังคือ อย่าลงครีมเยอะนะคะ หนาไปหน้าจะลอยไปลอยมาเลยล่ะค่ะ
ความปกปิดที่ได้ : ปกปิดได้น้อยค่ะ สำหรับรอยสิว ฝ้ากระ ต้องใช้คอนซีลเลอร์ค่ะ
คุมความมัน: สำหรับเราใช้ชีวิต ในสภาพอากาศธรรมชาติที่ไม่ได้อยู่ในห้องแอร์
ร้อนละลายขนาดนี้ เก่งขนาดไหนก็เอาไม่อยู่ค่ะ ยังไงก็มัน
แต่มันก็ทำให้เห็นถึงข้อดีของCCครีมตัวนี้นะคะ คือถึงแม้หน้าจะมัน แต่ก็ไม่เป็นคราบค่ะ
สเปรย์น้ำแร่แล้วซับๆ ก็ยังได้ผิวที่ผ่อง ดูกระจ่างใส โดนใจมากเลยค่ะ ณ คุณสมบัตินี้
ลุคที่ได้: ผิวดูสุขภาพดี ใส ฉ่ำวาวค่ะ เหมาะสำหรับคนที่ชอบแต่งหน้าแบบใสๆเบาๆ
มีโอกาสลองใช้ดูนะคะ มีขายที่ร้านสะดวกซื้อค่ะ ซอง6ml 39บ.
หรือซื้อที่ร้านค้าส่งเครื่องสำอางค์จะขายแบบเป็นกล่อง(บรรจุ 6 ซอง)ราคาถูกกว่าค่ะ
ชอบแบบไหนถามใจเธอดูนะคะ^^…บ๊าย บาย ค่า